จีนเร่งตั้งเขตเศรษฐกิจทะเลลึกในทะเลจีนใต้ จุดชนวนความตึงเครียดใหม่ในเอเชีย
รัฐบาลจีนประกาศจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษใต้ทะเลลึกแห่งแรกของประเทศ บริเวณหมู่เกาะพาราเซล (Xisha Islands) ในทะเลจีนใต้ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาการสำรวจทรัพยากรธรรมชาติและวิจัยเทคโนโลยีใต้ทะเลลึก ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากนานาชาติว่าเป็นการละเมิดสิทธิของประเทศเพื่อนบ้าน
ตามแถลงการณ์จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของจีน โครงการนี้จะใช้งบประมาณกว่า 10,000 ล้านหยวนภายใน 5 ปีแรก และร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและรัฐวิสาหกิจชั้นนำในการวิจัยแร่หายาก น้ำมัน และระบบนิเวศใต้ทะเล รวมถึงวางระบบสื่อสารและพลังงานใต้น้ำแบบถาวรเวียดนามและฟิลิปปินส์ออกมาคัดค้านทันที โดยชี้ว่าเขตที่จีนอ้างครอบคลุมนั้นเป็นพื้นที่พิพาทและอยู่นอกเหนือเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ของจีนตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล UNCLOS

สหรัฐฯ และญี่ปุ่นร่วมออกแถลงการณ์แสดงความกังวล พร้อมทั้งส่งเรือรบลาดตระเวนเข้าใกล้พื้นที่ดังกล่าวเพื่อยืนยันหลักเสรีภาพในการเดินเรือ ส่งผลให้ความตึงเครียดในภูมิภาคเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งในรอบปี
🛠 แผนพัฒนาทะเลลึกจีน
- โครงการสำรวจและทำเหมืองลึกจีนจัดตั้งเรือวิจัยและอุปกรณ์สำรวจใต้ทะเลลึก พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อใช้เปลื้องหน้าเรือ และวางโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการทำเหมืองแร่ที่มีน้ำลึกระดับพันเมตรผลคือจีนมีเทคโนโลยีควบคุมและตัดสายเคเบิลใต้น้ำลึกถึงระดับ 4,000 เมตร ซึ่งอาจใช้ในเชิงยุทธศาสตร์ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโครงข่ายดิจิทัลระดับโลก
- เขตเศรษฐกิจลึกเฉพาะทางนอกเหนือจากพื้นที่ 12 ไมล์ทะเลชายฝั่ง จีนส่งเรือและหุ่นใต้น้ำเข้าสำรวจบริเวณเขตเศรษฐกิจพิเศษ (EEZ) ของหลายชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เพื่อเก็บข้อมูลทางทะเลลึกและทรัพยากรธรรมชาติ
- เชื่อมโยงกับนโยบายความมั่นคงทุกกิจกรรมเชิงพลเรือนถูกวิพากษ์ว่ามีมิติด้านการทหารแอบแฝง เช่น การใช้ประโยชน์จากเรือวิจัยวิทยาศาสตร์และลองสายเคเบิลใต้น้ำเพื่อเสริมความสามารถทางกองทัพเรือ รวมถึงอำนวยการยุทธศาสตร์ล่องเรือใต้น้ำ
นักวิเคราะห์ความมั่นคงมองว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดของจีนอาจเป็นการวางหมากเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ในทะเลจีนใต้ ก่อนเข้าสู่การเจรจา COC (Code of Conduct) รอบใหม่ระหว่างจีนกับอาเซียนในเดือนสิงหาคมนี้
จีนได้ก้าวเข้าสู่สนาม “ทะเลลึก” ไม่เพียงใช้เพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์และเศรษฐกิจ หากแต่ยังเป็นเส้นทางใหม่ของการขยายอิทธิพลทางยุทธศาสตร์ ความขัดแย้งข้ามพรมแดนใต้ทะเลลึกเริ่มส่งผลต่อความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ASEAN ที่เริ่มแอคทีฟมากขึ้นผ่านแนวป้องกันในภูมิภาคและพันธมิตรกับสหรัฐฯ‑ญี่ปุ่นแนวโน้มฝังใจคือ ภูมิภาคทะเลจีนใต้อาจขยับจากจุดเผชิญหน้าทางพื้นผิว ไปสู่ “สนามรบใต้น้ำ” ที่ยากต่อการสังเกตการณ์ และมีความเสี่ยงต่อระบบโครงข่ายที่เชื่อมโลก
Don't miss a story
Subscribe to our email newsletter:
Don't worry we hate spam as much as you do



